หรีด ณ วัด
ส่งได้ทั่วไทย ส่งฟรีทั่ว กทม. และปริมณทล
หรีด ณ วัด

พวงหรีด วัดป่าเลไลย์-ตำบลกุดหมากไฟ อุดรธานี จัดส่งรวดเร็วไม่มีสะดุด

ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพสูง ณ วัดป่าเลไลย์ ตำบลกุดหมากไฟ จังหวัดอุดรธานี บริการรวดเร็ว ประณีตทุกขั้นตอน สั่งซื้อสะดวกง่ายดายผ่าน LINE เท่านั้น

พวงหรีดใกล้วัด

ประวัติวัดป่าเลไลย์ตำบลกุดหมากไฟอำเภอทุ่งฝนจังหวัดอุดรธานี

วัดป่าเลไลย์ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกล่าม หมู่ที่ 3 ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนหลังไปสู่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา แม้จะไม่ได้มีหลักฐานจารึกที่ชัดเจนระบุปีที่ก่อตั้งอย่างแน่ชัด แต่หลักฐานท้องถิ่นและโบราณสถานภายในวัดชี้ให้เห็นถึงความเก่าแก่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วัดป่าเลไลย์ได้ดำรงอยู่และได้รับการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่นที่มีต่อวัดแห่งนี้

แม้จะอยู่ห่างไกลจากวัดศรีสุมังคลาราม (ม. 9 หนองแสง ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 41220) และวัดหนองสวรรค์ (ม. 7 หนองสวรรค์ ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 41220) ซึ่งเป็นวัดสำคัญในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและความศรัทธาของชาวบ้าน วัดป่าเลไลย์ก็สามารถดำรงอยู่และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาได้ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดได้ผ่านการดูแลรักษาจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูป ซึ่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในการปกปักรักษา พัฒนา และส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านและเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนาของชุมชน

ภายในวิหารของวัดป่าเลไลย์ ประดิษฐานพระประธานอันงดงาม และที่สำคัญคือ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน องค์พระประธานและพระบรมสารีริกธาตุนี้ นับเป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของชาวบ้านและผู้คนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมาสักการะ สร้างบรรยากาศอันสงบร่มเย็นและเปี่ยมไปด้วยความหมายทางด้านจิตวิญญาณ ทำให้วัดป่าเลไลย์ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของชุมชนอีกด้วย

ปัจจุบัน วัดป่าเลไลย์ยังคงดำเนินกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการอบรมสั่งสอนพระธรรม การจัดกิจกรรมทางสังคม และการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้วัดยังคงเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนต่อไป และเพื่อสืบทอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดให้คงอยู่สืบไป ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของท้องถิ่น

Product 1
Product 2
Product 3
Product 4
Product 5
Product 6
Product 7
Product 8
Product 9
Product 10
Product 11
Product 12
Product 13
Product 14
Product 15
Product 16

ประวัติวัดป่าเลไลย์ตำบลกุดหมากไฟอำเภอทุ่งฝนจังหวัดอุดรธานี

วัดป่าเลไลย์ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกล่าม หมู่ที่ 3 ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนหลังไปสู่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา แม้จะไม่ได้มีหลักฐานจารึกที่ชัดเจนระบุปีที่ก่อตั้งอย่างแน่ชัด แต่หลักฐานท้องถิ่นและโบราณสถานภายในวัดชี้ให้เห็นถึงความเก่าแก่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วัดป่าเลไลย์ได้ดำรงอยู่และได้รับการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่นที่มีต่อวัดแห่งนี้

แม้จะอยู่ห่างไกลจากวัดศรีสุมังคลาราม (ม. 9 หนองแสง ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 41220) และวัดหนองสวรรค์ (ม. 7 หนองสวรรค์ ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี 41220) ซึ่งเป็นวัดสำคัญในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและความศรัทธาของชาวบ้าน วัดป่าเลไลย์ก็สามารถดำรงอยู่และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาได้ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดได้ผ่านการดูแลรักษาจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูป ซึ่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในการปกปักรักษา พัฒนา และส่งเสริมให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านและเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนาของชุมชน

ภายในวิหารของวัดป่าเลไลย์ ประดิษฐานพระประธานอันงดงาม และที่สำคัญคือ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน องค์พระประธานและพระบรมสารีริกธาตุนี้ นับเป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของชาวบ้านและผู้คนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมาสักการะ สร้างบรรยากาศอันสงบร่มเย็นและเปี่ยมไปด้วยความหมายทางด้านจิตวิญญาณ ทำให้วัดป่าเลไลย์ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของชุมชนอีกด้วย

ปัจจุบัน วัดป่าเลไลย์ยังคงดำเนินกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการอบรมสั่งสอนพระธรรม การจัดกิจกรรมทางสังคม และการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้วัดยังคงเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนต่อไป และเพื่อสืบทอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดให้คงอยู่สืบไป ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของท้องถิ่น