หรีด ณ วัด
ส่งได้ทั่วไทย ส่งฟรีทั่ว กทม. และปริมณทล
หรีด ณ วัด

ร้านพวงหรีด วัดผดุงสุข หนองคาย พร้อมคำแนะนำฟรี

ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพสูง ณ วัดผดุงสุข จังหวัดหนองคาย จัดส่งรวดเร็วทันใจ สั่งซื้อง่ายสะดวกผ่าน LINE

พวงหรีดใกล้วัด

ประวัติวัดผดุงสุข อำเภอ โพนพิสัย จังหวัด หนองคาย

วัดผดุงสุข: มรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมแห่งโพนพิสัย

วัดผดุงสุข ตั้งอยู่ที่บ้านถิ่นดุง ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของท้องถิ่น เดิมทีมีชื่อเรียกว่า “วัดถิ่นดุง” สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 ได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดผดุงสุข” ซึ่งสะท้อนถึงความปรารถนาให้วัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมแห่งความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน

วัดผดุงสุขตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในทำเลที่งดงามและเงียบสงบ ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอโพนพิสัย อาทิ เมืองบั้งไฟพญานาค ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่สนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม นอกจากนี้ วัดยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยวยายเหลียว และ ลำภูเนื้อย่างเกาหลี เสริมสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมวัดและสัมผัสวิถีชีวิตของชาวโพนพิสัย

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดผดุงสุขดำรงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษา อนุรักษ์ และพัฒนาศาสนสถานให้คงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการดูแลรักษาโบราณสถาน และส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง

ภายในวิหารของวัดผดุงสุข ประดิษฐานพระประธานอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน เป็นศูนย์รวมความศรัทธาและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สร้างความสงบสุขทางใจให้แก่ผู้ที่ได้มาเยือน ความสำคัญของพระประธานและพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้วัดผดุงสุขเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา สำหรับประชาชนในพื้นที่

จากข้อมูลที่รวบรวมได้ แสดงให้เห็นว่าวัดผดุงสุขเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม การอนุรักษ์และพัฒนาวัดผดุงสุขอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการรักษา สืบทอด และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบไป เพื่อประโยชน์ของชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นหลัง

Product 1
Product 2
Product 3
Product 4
Product 5
Product 6
Product 7
Product 8
Product 9
Product 10
Product 11
Product 12
Product 13
Product 14
Product 15
Product 16

ประวัติวัดผดุงสุข อำเภอ โพนพิสัย จังหวัด หนองคาย

วัดผดุงสุข: มรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมแห่งโพนพิสัย

วัดผดุงสุข ตั้งอยู่ที่บ้านถิ่นดุง ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของท้องถิ่น เดิมทีมีชื่อเรียกว่า “วัดถิ่นดุง” สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 ได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดผดุงสุข” ซึ่งสะท้อนถึงความปรารถนาให้วัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมแห่งความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน

วัดผดุงสุขตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในทำเลที่งดงามและเงียบสงบ ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอโพนพิสัย อาทิ เมืองบั้งไฟพญานาค ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่สนใจทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม นอกจากนี้ วัดยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยวยายเหลียว และ ลำภูเนื้อย่างเกาหลี เสริมสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมวัดและสัมผัสวิถีชีวิตของชาวโพนพิสัย

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดผดุงสุขดำรงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษา อนุรักษ์ และพัฒนาศาสนสถานให้คงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการดูแลรักษาโบราณสถาน และส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง

ภายในวิหารของวัดผดุงสุข ประดิษฐานพระประธานอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน เป็นศูนย์รวมความศรัทธาและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สร้างความสงบสุขทางใจให้แก่ผู้ที่ได้มาเยือน ความสำคัญของพระประธานและพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้วัดผดุงสุขเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา สำหรับประชาชนในพื้นที่

จากข้อมูลที่รวบรวมได้ แสดงให้เห็นว่าวัดผดุงสุขเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรม การอนุรักษ์และพัฒนาวัดผดุงสุขอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการรักษา สืบทอด และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบไป เพื่อประโยชน์ของชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นหลัง