หรีด ณ วัด
ส่งได้ทั่วไทย ส่งฟรีทั่ว กทม. และปริมณทล
หรีด ณ วัด

ร้านพวงหรีด วัดศรีบุญเรือง-ตำบลอุ่มเม่า ร้อยเอ็ด พร้อมดูแลคุณภาพ

ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพเยี่ยม ณ วัดศรีบุญเรือง อำเภออุ่มเม่า จังหวัดร้อยเอ็ด บริการรวดเร็ว ประณีต สั่งซื้อง่ายสะดวกผ่าน LINE เท่านั้น

พวงหรีดใกล้วัด

ประวัติวัดศรีบุญเรือง ตำบลอุ่มเม่า อำเภอ โพนทอง จังหวัด ร้อยเอ็ด

วัดศรีบุญเรือง ตั้งอยู่บ้านโคกสีดา หมู่ที่ 2 ตำบลอุ่มเม่า อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หลักฐานท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่าวัดแห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่า และได้ผ่านการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ต่อวัดแห่งนี้มาอย่างยาวนาน

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดศรีบุญเรืองดำรงอยู่และได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงความสมบูรณ์ ทั้งในด้านอาคารสถานที่ การจัดกิจกรรมทางศาสนา และการดูแลพระภิกษุสงฆ์ภายในวัด เพื่อให้วัดศรีบุญเรืองยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชน

ภายในวิหารอันสง่างามของวัดศรีบุญเรือง ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทั้งจากภายในชุมชนและจากพื้นที่ใกล้เคียง การได้มาเยือนวัดศรีบุญเรือง นอกจากจะได้สัมผัสกับความสงบร่มเย็นแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของท้องถิ่นอีกด้วย

ความสำคัญของวัดศรีบุญเรืองมิได้จำกัดอยู่เพียงด้านศาสนา แต่ยังมีบทบาทสำคัญในกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน เช่น การเป็นสถานที่จัดงานบุญประเพณีต่างๆ การให้ความช่วยเหลือด้านสังคม และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาชุมชน ตัวอย่างเช่น การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ขององค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเม่า อย่างเช่นการร่วมสนับสนุนโครงการจัดตั้งธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) MOI Waste Bank Week - มหาดไทย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยสรุปแล้ว วัดศรีบุญเรืองเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมของตำบลอุ่มเม่า อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ยังคงดำรงอยู่และมีบทบาทสำคัญในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่พึ่งทางใจของคนในชุมชนต่อไปในอนาคต

Product 1
Product 2
Product 3
Product 4
Product 5
Product 6
Product 7
Product 8
Product 9
Product 10
Product 11
Product 12
Product 13
Product 14
Product 15
Product 16

ประวัติวัดศรีบุญเรือง ตำบลอุ่มเม่า อำเภอ โพนทอง จังหวัด ร้อยเอ็ด

วัดศรีบุญเรือง ตั้งอยู่บ้านโคกสีดา หมู่ที่ 2 ตำบลอุ่มเม่า อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หลักฐานท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่าวัดแห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่า และได้ผ่านการบูรณะซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ต่อวัดแห่งนี้มาอย่างยาวนาน

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดศรีบุญเรืองดำรงอยู่และได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงความสมบูรณ์ ทั้งในด้านอาคารสถานที่ การจัดกิจกรรมทางศาสนา และการดูแลพระภิกษุสงฆ์ภายในวัด เพื่อให้วัดศรีบุญเรืองยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชน

ภายในวิหารอันสง่างามของวัดศรีบุญเรือง ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทั้งจากภายในชุมชนและจากพื้นที่ใกล้เคียง การได้มาเยือนวัดศรีบุญเรือง นอกจากจะได้สัมผัสกับความสงบร่มเย็นแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของท้องถิ่นอีกด้วย

ความสำคัญของวัดศรีบุญเรืองมิได้จำกัดอยู่เพียงด้านศาสนา แต่ยังมีบทบาทสำคัญในกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน เช่น การเป็นสถานที่จัดงานบุญประเพณีต่างๆ การให้ความช่วยเหลือด้านสังคม และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาชุมชน ตัวอย่างเช่น การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ขององค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเม่า อย่างเช่นการร่วมสนับสนุนโครงการจัดตั้งธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) MOI Waste Bank Week - มหาดไทย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยสรุปแล้ว วัดศรีบุญเรืองเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมของตำบลอุ่มเม่า อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ยังคงดำรงอยู่และมีบทบาทสำคัญในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่พึ่งทางใจของคนในชุมชนต่อไปในอนาคต