ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพเยี่ยม ณ วัดรัตนไตรคม จังหวัดร้อยเอ็ด บริการรวดเร็ว ประณีตทุกขั้นตอน สั่งซื้อสะดวกผ่าน LINE เท่านั้น
วัดรัตนไตรคม ตั้งอยู่ ณ ตำบลขามเปี้ย อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน แม้หลักฐานที่แน่ชัดจะยังไม่ปรากฏชัดเจน แต่จากหลักฐานท้องถิ่นและการสืบทอดเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่น สันนิษฐานได้ว่าวัดรัตนไตรคมก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่าของท้องถิ่น ซึ่งได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาและความร่วมมือร่วมใจของชุมชนบ้านขามเปี้ยที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดวัดแห่งนี้มาเป็นเวลายาวนาน
ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดรัตนไตรคมดำรงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูป ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชน เจ้าอาวาสเหล่านี้ได้มีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมือง ไม่เพียงแต่การดูแลรักษาอาคารสถานที่ให้มีความมั่นคงแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังได้ส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลรักษาพระประธานและพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน
ภายในวิหารของวัดรัตนไตรคม ประดิษฐานพระประธานอันงดงาม เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาสักการะและขอพรอย่างไม่ขาดสาย ทำให้วัดรัตนไตรคมไม่เพียงเป็นศูนย์กลางทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตำบลขามเปี้ย อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย
ความสำคัญของวัดรัตนไตรคมปรากฏชัดเจนจากการที่วัดแห่งนี้ได้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีสำคัญของชุมชน เช่น งานบุญบั้งไฟบ้านขามเปี้ย ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับอำเภอโพธิ์ชัย สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและบทบาทสำคัญของวัดที่มีต่อชุมชน และเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านขามเปี้ยมาอย่างยาวนาน
แม้ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรของวัดรัตนไตรคมจะยังมีข้อจำกัด แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนคือ วัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชุมชน ทั้งในแง่ของการเป็นศูนย์กลางทางศาสนา การเป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปกรรม และการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดไว้ให้คงอยู่สืบไป
วัดรัตนไตรคม ตั้งอยู่ ณ ตำบลขามเปี้ย อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน แม้หลักฐานที่แน่ชัดจะยังไม่ปรากฏชัดเจน แต่จากหลักฐานท้องถิ่นและการสืบทอดเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่น สันนิษฐานได้ว่าวัดรัตนไตรคมก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่าของท้องถิ่น ซึ่งได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาและความร่วมมือร่วมใจของชุมชนบ้านขามเปี้ยที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดวัดแห่งนี้มาเป็นเวลายาวนาน
ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดรัตนไตรคมดำรงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิหลายรูป ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชน เจ้าอาวาสเหล่านี้ได้มีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมือง ไม่เพียงแต่การดูแลรักษาอาคารสถานที่ให้มีความมั่นคงแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังได้ส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลรักษาพระประธานและพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน
ภายในวิหารของวัดรัตนไตรคม ประดิษฐานพระประธานอันงดงาม เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาสักการะและขอพรอย่างไม่ขาดสาย ทำให้วัดรัตนไตรคมไม่เพียงเป็นศูนย์กลางทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตำบลขามเปี้ย อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย
ความสำคัญของวัดรัตนไตรคมปรากฏชัดเจนจากการที่วัดแห่งนี้ได้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีสำคัญของชุมชน เช่น งานบุญบั้งไฟบ้านขามเปี้ย ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับอำเภอโพธิ์ชัย สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและบทบาทสำคัญของวัดที่มีต่อชุมชน และเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านขามเปี้ยมาอย่างยาวนาน
แม้ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรของวัดรัตนไตรคมจะยังมีข้อจำกัด แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนคือ วัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชุมชน ทั้งในแง่ของการเป็นศูนย์กลางทางศาสนา การเป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปกรรม และการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดไว้ให้คงอยู่สืบไป