หรีด ณ วัด
ส่งได้ทั่วไทย ส่งฟรีทั่ว กทม. และปริมณทล
หรีด ณ วัด

พวงหรีด วัดหงษ์รัตนาวาส ร้อยเอ็ด บริการด้วยใจจริง

ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพเยี่ยม ณ วัดหงษ์รัตนาวาส จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับคำชมจากลูกค้ามากมายถึงความประณีตและบริการที่รวดเร็ว สั่งง่ายสะดวกผ่าน LINE เท่านั้น

พวงหรีดใกล้วัด

ประวัติวัดหงษ์รัตนาวาส อำเภอ เสลภูมิ จังหวัด ร้อยเอ็ด

วัดหงษ์รัตนาวาส ตั้งอยู่ตำบลนาเมือง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สังกัดมหานิกาย หลักฐานทางท้องถิ่นชี้ชัดว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่าของท้องถิ่น ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดหงษ์รัตนาวาส ได้รับการบูรณะและดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องจากชุมชนและคณะสงฆ์ จนถึงปัจจุบัน ทำให้ยังคงความงดงามและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างครบถ้วน

ปัจจุบัน วัดหงษ์รัตนาวาส ได้รับการดูแลจากพระอธิการณรงค์ศักดิ์ ฐานกโร เจ้าอาวาส และคณะสงฆ์ ซึ่งได้ร่วมกันรักษาและสืบทอดประเพณีทางศาสนา และกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการร่วมกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น การเข้าร่วมกิจกรรมกับเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเสลภูมิ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ณ วัดหงษ์รัตนาวาสเอง สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ภายในวิหารของวัดหงษ์รัตนาวาส ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน ทั้งในพื้นที่อำเภอเสลภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง สิ่งเหล่านี้เป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของประชาชน สร้างความผูกพันระหว่างวัดกับชุมชนอย่างเหนียวแน่น และเป็นเสาหลักทางจิตใจของคนในท้องถิ่น

แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่ระบุปีที่ก่อตั้งวัดอย่างชัดเจน แต่จากประวัติความเป็นมาและหลักฐานทางท้องถิ่น ก็สามารถยืนยันได้ว่าวัดหงษ์รัตนาวาส เป็นวัดที่มีอายุยาวนาน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด การที่วัดยังคงดำรงอยู่และได้รับการดูแลอย่างดี แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อวัดแห่งนี้ และความมุ่งมั่นของคณะสงฆ์ในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

วัดหงษ์รัตนาวาส จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมให้คงอยู่สืบไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของท้องถิ่น

Product 1
Product 2
Product 3
Product 4
Product 5
Product 6
Product 7
Product 8
Product 9
Product 10
Product 11
Product 12
Product 13
Product 14
Product 15
Product 16

ประวัติวัดหงษ์รัตนาวาส อำเภอ เสลภูมิ จังหวัด ร้อยเอ็ด

วัดหงษ์รัตนาวาส ตั้งอยู่ตำบลนาเมือง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สังกัดมหานิกาย หลักฐานทางท้องถิ่นชี้ชัดว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ทรงคุณค่าของท้องถิ่น ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดหงษ์รัตนาวาส ได้รับการบูรณะและดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องจากชุมชนและคณะสงฆ์ จนถึงปัจจุบัน ทำให้ยังคงความงดงามและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างครบถ้วน

ปัจจุบัน วัดหงษ์รัตนาวาส ได้รับการดูแลจากพระอธิการณรงค์ศักดิ์ ฐานกโร เจ้าอาวาส และคณะสงฆ์ ซึ่งได้ร่วมกันรักษาและสืบทอดประเพณีทางศาสนา และกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการร่วมกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น การเข้าร่วมกิจกรรมกับเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเสลภูมิ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ณ วัดหงษ์รัตนาวาสเอง สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ภายในวิหารของวัดหงษ์รัตนาวาส ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน ทั้งในพื้นที่อำเภอเสลภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง สิ่งเหล่านี้เป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของประชาชน สร้างความผูกพันระหว่างวัดกับชุมชนอย่างเหนียวแน่น และเป็นเสาหลักทางจิตใจของคนในท้องถิ่น

แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่ระบุปีที่ก่อตั้งวัดอย่างชัดเจน แต่จากประวัติความเป็นมาและหลักฐานทางท้องถิ่น ก็สามารถยืนยันได้ว่าวัดหงษ์รัตนาวาส เป็นวัดที่มีอายุยาวนาน และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด การที่วัดยังคงดำรงอยู่และได้รับการดูแลอย่างดี แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อวัดแห่งนี้ และความมุ่งมั่นของคณะสงฆ์ในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

วัดหงษ์รัตนาวาส จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมให้คงอยู่สืบไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของท้องถิ่น