หรีด ณ วัด
ส่งได้ทั่วไทย ส่งฟรีทั่ว กทม. และปริมณทล
หรีด ณ วัด

บริการพวงหรีด วัดห้วยน้ำเย็น-ตำบลหนองกุลา พิษณุโลก ส่งถึงมืออย่างรวดเร็ว

ร้านหรีด ณ วัด บริการจัดทำพวงหรีดส่งด่วนถึงวัดห้วยน้ำเย็น ตำบลหนองกุลา จังหวัดพิษณุโลก บริการรวดเร็วทันใจ สั่งซื้อง่ายสะดวกผ่าน LINE เท่านั้น

พวงหรีดใกล้วัด

ประวัติวัดห้วยน้ำเย็นตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

วัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา: มรดกทางพุทธศาสนาอันทรงคุณค่าแห่งตำบลหนองกุลา

ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก 65140 เป็นที่ตั้งของสถานธรรมอันทรงคุณค่าสองแห่ง ได้แก่ วัดห้วยน้ำเย็น ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 16 และวัดหนองกุลา ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 17 ทั้งสองวัดนี้ดำรงอยู่เคียงคู่กันมาอย่างยาวนาน เป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยได้รับการดูแลอย่างดีจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุลา

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่า วัดห้วยน้ำเย็นมีรากฐานการก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีความสำคัญยิ่ง ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดห้วยน้ำเย็นได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาและการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอของชุมชน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน วัดยังคงรักษาเอกลักษณ์และความงดงามทางสถาปัตยกรรมอันเป็นมรดกตกทอดไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

การดำรงอยู่ของวัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา มิอาจแยกออกจากบทบาทสำคัญของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้อุทิศตนในการดูแลรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้มีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในด้านการปกครองคณะสงฆ์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการบำรุงรักษาสิ่งปลูกสร้างให้คงความสมบูรณ์ การทำงานอย่างไม่ย่อท้อของเจ้าอาวาสเหล่านี้ จึงเป็นกำลังสำคัญในการรักษาศาสนสถานให้คงอยู่สืบไป

ภายในวิหารของวัดห้วยน้ำเย็น ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และแสวงหาความสงบทางจิตใจ ความศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา จึงเป็นรากฐานที่ทำให้วัดห้วยน้ำเย็นดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน

วัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา จึงไม่เพียงเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของตำบลหนองกุลา และจังหวัดพิษณุโลก เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ต่อไป

Product 1
Product 2
Product 3
Product 4
Product 5
Product 6
Product 7
Product 8
Product 9
Product 10
Product 11
Product 12
Product 13
Product 14
Product 15
Product 16

ประวัติวัดห้วยน้ำเย็นตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

วัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา: มรดกทางพุทธศาสนาอันทรงคุณค่าแห่งตำบลหนองกุลา

ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก 65140 เป็นที่ตั้งของสถานธรรมอันทรงคุณค่าสองแห่ง ได้แก่ วัดห้วยน้ำเย็น ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 16 และวัดหนองกุลา ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 17 ทั้งสองวัดนี้ดำรงอยู่เคียงคู่กันมาอย่างยาวนาน เป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยได้รับการดูแลอย่างดีจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุลา

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่า วัดห้วยน้ำเย็นมีรากฐานการก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีความสำคัญยิ่ง ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดห้วยน้ำเย็นได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาและการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอของชุมชน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน วัดยังคงรักษาเอกลักษณ์และความงดงามทางสถาปัตยกรรมอันเป็นมรดกตกทอดไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

การดำรงอยู่ของวัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา มิอาจแยกออกจากบทบาทสำคัญของเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้อุทิศตนในการดูแลรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้มีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในด้านการปกครองคณะสงฆ์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการบำรุงรักษาสิ่งปลูกสร้างให้คงความสมบูรณ์ การทำงานอย่างไม่ย่อท้อของเจ้าอาวาสเหล่านี้ จึงเป็นกำลังสำคัญในการรักษาศาสนสถานให้คงอยู่สืบไป

ภายในวิหารของวัดห้วยน้ำเย็น ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และแสวงหาความสงบทางจิตใจ ความศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา จึงเป็นรากฐานที่ทำให้วัดห้วยน้ำเย็นดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน

วัดห้วยน้ำเย็นและวัดหนองกุลา จึงไม่เพียงเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของตำบลหนองกุลา และจังหวัดพิษณุโลก เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ต่อไป