ร้านหรีด ณ วัด บริการพวงหรีดคุณภาพเยี่ยม งานประณีต วัสดุชั้นดี เหมาะสำหรับทุกโอกาส สั่งซื้อง่ายสะดวกผ่าน LINE เท่านั้น
วัดหนองน้ำขุ่น ตั้งอยู่ ณ ตำบลหนองบัว อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่น แม้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัดยังมีอยู่อย่างจำกัด แต่จากหลักฐานที่พบ เช่น การปรากฏตัวของวัดบนสื่อสังคมออนไลน์ และความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น (จตุคามคุรุรัฐพัฒนา) บ่งชี้ถึงการดำรงอยู่และบทบาทสำคัญของวัดแห่งนี้มาอย่างยาวนาน
วัดหนองน้ำขุ่น ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ การดูแลรักษาสถานที่ประกอบด้วยการบำรุงรักษาอาคาร วิหาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดให้คงสภาพที่ดี เช่นเดียวกับการจัดกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนในชุมชน
ภายในวิหารของวัดหนองน้ำขุ่น ประดิษฐานพระประธานอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ในชุมชน
ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างวัดหนองน้ำขุ่นกับชุมชนโดยรอบสะท้อนให้เห็นได้จากความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น (จตุคามคุรุรัฐพัฒนา) เดิมชื่อ “โรงเรียนประชาบาลตำบลปะคำ 3” (บ้านหนองน้ำขุ่น) ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านหนองบัว ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. … (ข้อมูลปี พ.ศ. ไม่ครบถ้วนในข้อมูลต้นฉบับ) การที่โรงเรียนตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับวัดแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดที่มีต่อการศึกษาและการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่
ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงชุด “ระบำจัมปาศรี” ในงานฉลองวันก่อตั้งหมู่บ้านครบรอบ 55 ปีบ้านหนองบัว ซึ่งมีนางชุติมา ห้วยบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น เป็นผู้ควบคุมการแสดง แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างวัด โรงเรียน และชุมชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของวัดหนองน้ำขุ่นที่มีต่อการสร้างความสามัคคีและการพัฒนาสังคมในท้องถิ่นอย่างชัดเจน
แม้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติวัดหนองน้ำขุ่นจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดแห่งนี้ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ศูนย์กลางทางศาสนา และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสามัคคีและพัฒนาชุมชนบ้านหนองบัว อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มาอย่างยาวนาน
วัดหนองน้ำขุ่น ตั้งอยู่ ณ ตำบลหนองบัว อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่น แม้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัดยังมีอยู่อย่างจำกัด แต่จากหลักฐานที่พบ เช่น การปรากฏตัวของวัดบนสื่อสังคมออนไลน์ และความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น (จตุคามคุรุรัฐพัฒนา) บ่งชี้ถึงการดำรงอยู่และบทบาทสำคัญของวัดแห่งนี้มาอย่างยาวนาน
วัดหนองน้ำขุ่น ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและพัฒนาศาสนสถานให้คงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ การดูแลรักษาสถานที่ประกอบด้วยการบำรุงรักษาอาคาร วิหาร และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดให้คงสภาพที่ดี เช่นเดียวกับการจัดกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนในชุมชน
ภายในวิหารของวัดหนองน้ำขุ่น ประดิษฐานพระประธานอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ในชุมชน
ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างวัดหนองน้ำขุ่นกับชุมชนโดยรอบสะท้อนให้เห็นได้จากความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น (จตุคามคุรุรัฐพัฒนา) เดิมชื่อ “โรงเรียนประชาบาลตำบลปะคำ 3” (บ้านหนองน้ำขุ่น) ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านหนองบัว ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. … (ข้อมูลปี พ.ศ. ไม่ครบถ้วนในข้อมูลต้นฉบับ) การที่โรงเรียนตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับวัดแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดที่มีต่อการศึกษาและการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่
ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงชุด “ระบำจัมปาศรี” ในงานฉลองวันก่อตั้งหมู่บ้านครบรอบ 55 ปีบ้านหนองบัว ซึ่งมีนางชุติมา ห้วยบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองน้ำขุ่น เป็นผู้ควบคุมการแสดง แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างวัด โรงเรียน และชุมชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของวัดหนองน้ำขุ่นที่มีต่อการสร้างความสามัคคีและการพัฒนาสังคมในท้องถิ่นอย่างชัดเจน
แม้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติวัดหนองน้ำขุ่นจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดแห่งนี้ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ศูนย์กลางทางศาสนา และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสามัคคีและพัฒนาชุมชนบ้านหนองบัว อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มาอย่างยาวนาน