ร้านหรีด ณ วัด ให้บริการพวงหรีดคุณภาพสูง ณ วัดปทุมทอง จังหวัดนครราชสีมา บริการรวดเร็ว ประณีต สั่งซื้อง่ายๆ ผ่าน LINE เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
วัดปทุมทอง ตั้งอยู่บ้านโจด หมู่ที่ 4 ตำบลหนองมะนาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดราษฎร์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน หลักฐานท้องถิ่นชี้ชัดว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดปทุมทองได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง
เดิมวัดอาจมีชื่อเรียกขานแตกต่างไปจากปัจจุบัน แต่ในที่สุดก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดปทุมทอง" ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามและความรุ่งเรืองของวัด ภายในบริเวณวัดมีอาณาเขตที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ตามหลักเกณฑ์ของพัทธสีมา แสดงถึงความเป็นวัดที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา
วัดปทุมทองได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและสืบทอดประเพณี รวมทั้งการพัฒนาศาสนสถานให้มีความเหมาะสมและสวยงาม เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลรักษา เพื่อให้วัดปทุมทองเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านอย่างแท้จริง
ภายในวิหารของวัดปทุมทอง ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ และถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทำให้วัดปทุมทองไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนด้วย
วัดปทุมทองจึงเป็นมากกว่าวัดธรรมดา แต่เป็นเสมือนศูนย์กลางของชุมชน ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ ศรัทธา และความสามัคคีของชาวบ้าน ไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน นับเป็นสถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัด และความงดงามของศิลปกรรมไทยที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
วัดปทุมทอง ตั้งอยู่บ้านโจด หมู่ที่ 4 ตำบลหนองมะนาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดราษฎร์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน หลักฐานท้องถิ่นชี้ชัดว่าวัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา นับเป็นมรดกทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดปทุมทองได้ผ่านการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง
เดิมวัดอาจมีชื่อเรียกขานแตกต่างไปจากปัจจุบัน แต่ในที่สุดก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดปทุมทอง" ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามและความรุ่งเรืองของวัด ภายในบริเวณวัดมีอาณาเขตที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ตามหลักเกณฑ์ของพัทธสีมา แสดงถึงความเป็นวัดที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา
วัดปทุมทองได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าอาวาสผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาและสืบทอดประเพณี รวมทั้งการพัฒนาศาสนสถานให้มีความเหมาะสมและสวยงาม เจ้าอาวาสและคณะสงฆ์ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลรักษา เพื่อให้วัดปทุมทองเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านอย่างแท้จริง
ภายในวิหารของวัดปทุมทอง ประดิษฐานพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ และถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทำให้วัดปทุมทองไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนด้วย
วัดปทุมทองจึงเป็นมากกว่าวัดธรรมดา แต่เป็นเสมือนศูนย์กลางของชุมชน ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ ศรัทธา และความสามัคคีของชาวบ้าน ไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน นับเป็นสถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัด และความงดงามของศิลปกรรมไทยที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน